การสร้างแบรนด์จากเครือข่ายผู้บริโภคและตัวแทน
สินค้าที่มาจากการโปรโมทตลาดด้วยการโฆษณาและอัดโปรโมชั่นเยอะๆเพื่อให้ได้ยอดขายมานั้นเสมอการสร้างปราสาททรายที่รอวันพังทลายไม่เหลืออะไรเมื่อหมดงบทางการตลาด ถ้าคุณไม่ทำการสร้างแบรนด์เพื่อให้ได้ฐานลูกค้าเฉพาะของคุณ สินค้าคุณก็จะถูกสงครามการตลาดไม่ว่าการดรัมราคาปั่นโปรฯ, สินค้ามาใหม่มากมาย, สินค้าเลียนแบบ ฆ่าตายในที่สุด ดังนั้น หนทางการอยู่รอดนั้นคือการสร้างแบรนด์เพื่อให้สินค้าของคุณอยู่กับผู้บริโภคตลอดไป
บทที่ 1 ปัจจัยในการตัดสินใจซื้อสินค้าของคนเรา
1. เป็นสินค้าที่อยู่ในกระแส
2. เรื่องของราคาที่ดีกว่า โปรฯ ดีกว่า
3. ผลตอบแทนที่ซื้อแล้วได้รางวัลหรือโบนัสกลับมา
4. ตอบโจทย์ความต้องการ
5. การแนะนำของ Influencer สื่อต่างๆ หรือแหล่งความรู้ Blog ต่างๆ
6. ซื้อเพราะต้องการลงทุนเก็งกำไร
7. ซื้อเพราะอารมณ์หรือแรงบรรยากาศรอบข้างพาไป
8. ซื้อเพื่อแสดงฐานะที่เหนือกว่าหรือความภาคภูมิใจ
9. สงสัยอยากทดลอง
10. เพื่อนคนใกล้ชิดแนะนำบอกต่อ
ด้วย 10 ปัจจัยหลักนี้ คือเหตุผลของการตัดสินใจที่จะซื้ออะไรบางอย่างเขาเราทุกคน บางสินค้าอาศัยแค่ 1 ปัจจัยก็สามารถติดสินใจซื้อได้ทันที
การเพิ่มโอกาสในการซื้อของลูกค้าของคุณ คุณต้องใช้งบตลาดและวิธีการตลาดเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกถึงปัจจัยใน 10 อย่างนี้ให้ครบมากที่สุดเพื่อเพิ่มโอกาสในการจจัดสินใจซื้อสินค้าของคุณนั้นอง
บทที่ 2 การให้กลุ่มเป้าหมายทางการตลาด
กลุ่มเป้าหมายที่ง่ายที่สุด คือการให้ลูกค้าที่มีความต้องการซื้อเพื่อตอบโจทย์ความต้องการ ข้อที่ 4 ในบทที่ 1 นั่นเอง ดังนั้น ทุกสินค้าทั่วไปจะทุ่มงบการตลาดเพื่อตามหาคน ในข้อ 4 ในบทที่ 1 นี้ อย่างเดียว เช่น ยิงแอดในโซเชียลมีเดียเพื่อตามหาคนกลุ่มนี้ ถ้าเจอในกลุ่มที่เขาไม่สนใจปัจจัยอื่นๆ นอกจาก ข้อ 4 ในบทที่ 1 คุณก็สามารถเก็บลูกค้านี้ได้ทันที แต่ส่วนมากการซื้อนั้นไม่ได้มาจากข้อ 4 ข้อเดียวดังที่แสดงไว้ ยังมีเหลืออีก 9 ปัจจัยในการที่จะซื้อ ถ้าสินค้าของคุณไม่โดนอีก 9 ปัจจัยที่เหลือ คุณก็พลาดที่จะเก็บพวกเขาเป็นลูกค้าของคุณได้
บทที่ 3 คุณจะเก็บลูกค้าที่ซื้อของคุณแล้วให้กลับมาซื้ออีกได้อย่างไร
ตรงนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมากที่การทำการตลาดทั่วไปสินค้าที่ไม่ได้ทำแบรนด์จะทำได้ ซึ่งจุดนี้คือหัวใจหลักของสินค้าคุณเรียกว่าฐานลูกค้านั่นเอง การทำแบรนด์ คือการสร้างฐานลูกค้าของคุณทุกคนใช้สินค้าคุณตลอดมีการซื้อซ้ำอย่างจริงจังและตลอดไป ถ้าคุณลงทุนเพื่อให้ได้กลุ่มเป้าหมายมหาศาลแต่ลืมการทำแบรนด์ ก็ไม่ต่างจากที่คุณดังเหมือนพลุแตกภายในข้ามคืนแล้วทุกอย่างหายไปแบบรวดเร็วจากยอดขาย 10 ล้านที่ทำได้สุดท้ายเหลือแค่หลักหมื่นเท่านั้น
บทที่ 4 มูลค่าการตลาดลูกค้าที่ติดแบรนด์คุณ
เมื่อคุณลงทุนการตรลาดในตอนแรกในการอัดโฆษณาแบบจริงจรังแล้วประกอบที่คุณได้ลงทุนสร้างแบรนด์ของคุณด้วย ลูกค้าค้าของคุณจะเหลือเป็นฐานลูกค้าจริงๆ ของคุณ เมื่อคุณไม่ได้โฆษณาใดๆ ประมาณ 10%-30% จากยอดสูงสุดที่คุณทำได้ นี้คือลูกค้าจริงๆ ของคุณสินค้าของคุณจะอยู่ได้ด้วยยอดตรงนี้ไปตลอดตราบที่คุณรักษาพวกเขาไว้ได้
บทที่ 5 การสร้างแบรนด์ต้องอาศัยปัจจัยข้อไหนบ้างที่สำคัญ
คุณต้องสร้าง 3 ปัจจัยที่สำคัญ คือ
1. ผลตอบแทนที่ซื้อแล้วได้รางวัลหรือโบนัสกลับมา (ข้อ3. บทที่ 1)
2. การแนะนำของ Influencer สื่อต่างๆ หรือแหล่งความรู้ Blog ต่างๆ (ข้อ 5 บทที่ 1)
3. ซื้อเพื่อแสดงฐานะที่เหนือกว่าหรือความภาคภูมิใจ (ข้อ 8 บทที่ 1)
4. เพื่อนคนใกล้ชิดแนะนำบอกต่อ (ข้อ 10 บทที่ 1)
การสร้างแบรนด์ที่ดีต้องมี 4 ปัจจัยนี้ประกอบครบถ้วนทั้งหมด
บทที่ 6 วิธีการสร้างแบรนด์
1. ใช้ทุนหรือเงินในการสร้างแบรนด์
ในข้อ 2 และข้อ 3 ในบทที่ 5 ทุกคนที่มีทุนและมีกำลังทรัพย์สามารถทำได้แบบเต็มที่และได้เปรียบกว่าเจ้าของสินค้าที่ไม่มีทุน สามารถโฆษณาได้ทุกช่องทางให้คนทั่วไปได้เห็นภาพที่ดีๆ ของสินค้า และจ้าง Influencer คอยชี้นำว่าสินค้านี้ดีจริง โดยเจ้าของสินค้าต้องมีทุนโฆษณาอัดตลอดเพื่อให้เกิดแบรนด์
ข้อดี คือ ง่าย ใช้เงินทำงานแต่จะใช้งบประมาณที่มหาศาลและหยุดไม่ได้ ราคาสินค้าถ้าผลิตน้อยต้องขายแพงหรือถ้าจะขายถูก ต้องขายเยอะพอและผลิตเยอะ เหมาะสำหรับทุนใหญ่
ข้อเสีย คือ คนที่มีทุนระดับกลางถึงเล็กไม่สามารถทำแบบนี้ได้ตลอด และอาจจะไม่ได้ผลเท่าที่ควรเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำที่กว้างใหญ่
2. ใช้พลังเครือข่ายผู้บริโภคในการสร้างแบรนด์
ในข้อ 1 ของบทที่ 5 ระบบคล้ายๆ สหกรณ์ร้านค้า คือให้คนที่ซื้อสินค้าได้ผลตอบแทนจากการซื้อสินค้า และถ้าบอกต่อแนะนำให้คนอื่นมาซื้อด้วย ในข้อที่ 4 ของบทที่ 5 ก็ได้ผลตอบแทน ทำให้เกิดกลุ่มผู้บริโภคโดยที่ทางเจ้าของสินค้าไม่ต้องลงทุนโฆษณามากมายแต่จะค่อยๆ เป็นที่รู้จักไปจากเล็กๆ ไปสู่กลุ่มใหญ่ ใช้เวลาสักหน่อยแต่จะได้ผู้บริโภคที่จะซื้อสินค้าเราซ้ำตลอด เพราะระบบนิเวศน์ เมื่อซื้อสินค้าแล้วได้ผลตอบแทนระหว่างกลุ่มผู้บริโภคกันเองไม่ผ่านร้านค้าใหญ่อาจจะมีการลงทุนสร้างระบบเพื่อจัดการข้อมูลสมาชิกและจ่ายโบนัส แต่ได้ผลดีกว่าที่จะทุ่มลงทุนโฆษณาที่ถ้ามีไม่มากพอก็ไม่ได้ผลอะไรเลยและไม่มีผู้ซื้อประจำเป็นฐานลูกค้าให้คุณ
ข้อดี ได้กลุ่มผู้บริโภคประจำเป็นฐานลูกค้า ใช้เงินทุนต่ำและจะดีในระยะยาวเมื่อฐานลูกค้าขยายตัวมากขึ้นตามเวลาที่ผ่านไปโดยไม่ต้องลงทุนโฆษณาอีก
ข้อเสีย ต้องอาศัยเวลาในการสร้าง และต้องลงทุนระบบจัดการสมาชิกและจ่ายโบนัสเพิ่มและต้องขออนุญาต สคบ. เป็นธุรกิจขายตรงให้ถูกต้องตามกฎหมาย
บทสรุป
มาถึงตรงนี้ การสร้างแบรนด์ที่เป็นไปได้โดยลงทุนไม่มากและได้ผลดีสุด คือการใช้พลังเครือข่ายผู้บริโภคในการสร้างแบรนด์ ทางผู้เขียนขอแนะนำระบบจัดการสมาชิกและจ่ายโบนัสที่ดีที่สุดอนนี้ คือ โปรแกรม MarketLink ที่สามารถบริหารจัดการระบบการตลาดเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนใจคลิกที่ https://www.marketlink.me ราคาไม่แพงคุ้มค่าแน่นอน